เบาหวาน
โรคเบาหวาน
เป็นกลุ่มอาการของโรค ที่ร่างกายไม่สามารถใช้น้ำตาลได้ตามปกติ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นและถูกขับออกมาทางปัสสาวะความสำคัญของโรคเบาหวานโรคเบาหวานเป็นโรคที่พบได้บ่อยและพบมากขึ้นตามอายุในคนอายุ 40 ปีขึ้นไป พบว่าคน 10 คน ป่วยเป็นโรคเบาหวานถึง 1 คนจึงควรทำความรู้จักเพื่อที่จะได้หาทางป้องกันและรักษาเมื่อเป็นโรคนี้ได้อย่างถูกต้อง
อันตรายจากโรคเบาหวาน
การปล่อยให้ระดับน้ำตาลเลือดสูงมาก ๆ เป็นเวลานานจะทำให้มีโรคแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้ แบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ ชนิดเฉียบ พลัน มีอาการหอบเหนื่อย คลื่นไส้ อาเจียน ซึมจนหมดสติ ปวดบวม เป็นฝีฝักบัว แผลเนื้อเน่าตายชนิดมีผลระยะยาว ทำให้เกิดโรคหัวใจอัมพาต เท้าเน่าดำ ตาบอด ต้อกระจก ไตพิการ เกิดอาการบวมถึงตายได้ด้วยไตวาย
สาเหตุ
เบาหวานเกิดเนื่องจากร่างกายมีอินซูลินไม่เพียงพอที่จะช่วยนำน้ำตาลไปใช้ให้เป็นพลังงาน และมักมีสาเหตุส่งเสริมจากกรรมพันธุ์ โดยมักพบโรคนี้ในผู้ที่ พ่อ แม่ ญาติพี่น้อง เป็นเบาหวาน ความอ้วนการไม่ออกกำลังกาย สิ่งแวดล้อมจากเชื้อโรค สารพิษ หรือยาบางชนิดความเครียด
อาการ
- กินจุ แต่ผอมลง
- หิวน้ำบ่อยและมาก
- ปัสสาวะบ่อยและมาก
- เป็นแผลหรือฝีง่ายแต่หายยาก
- อ่อนเพลีย
- ชาตามปลายมือและปลายเท้า
- ตาพร่ามัว
- คันตามผิวหนังและอวัยวะสืบพันธุ์
- ลูกที่คลอดออกมาตัวโตกว่าปกติ
การป้องกัน
- ควบคุมน้ำหนักอย่าให้อ้วนเกินไป
- หลีกเลี่ยงอาหารหวานจัด
- ออกกำลังการสม่ำเสมอ
- ไม่เครียดหรือวิตกกังวล
- เมื่อมีเชื้อโรคให้รีบรักษา
- เจาะเลือดตรวจเบาหวานอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
เมื่อเป็นเบาหวาน
- ควบคุมอาหาร โดยลดอาหารจำพวก แป้งและของหวานทุกชนิด
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- เมื่อไม่สบาย อย่างดหรือเพิ่มยาที่ควบคุมโรคเบาหวานเอง ให้รับประทานได้ตามปกติ
- ดูแลรักษาฟัน ผิวหนัง และเท้าให้ดีที่สุด ถ้ามีแผลอย่าปล่อยทิ้งไว้ให้รับรักษา
- ควรทราบว่า อาการหิว ใจสั่น มือสั่น อ่อนเพลีย รู้สึกจะเป็นลม ปวดศีรษะ เหงื่อออกมาก รู้สึกยิบๆ ที่ลิ้น และริมฝีปาก เป็นอาการของน้ำตาลในเลือดต่ำให้รีบอมน้ำตาลก้อน ท็อฟฟี่ (ที่พกติดตัวไว้เสมอ) แล้วรีบไปพบแพทย์
- หมั่นตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ ตา เพราะผู้ป่วย เบาหวาน ตาจะเสื่อมลง และเป็นต้อกระจกได้
- พกบัตรแระจำตัวผู้ป่วยเบาหวานติดตัวอยู่เสมอ