
วัณโรค
โรควัณโรค
วัณโรคเป็นโรคติดต่อทางเดินหายใจมาตั้งแต่อดีต ปัจจุบันโรคนี้ได้รับความสนใจจากองค์การอนามัยโลกเนื่องจากอัตราการติดเชื้อเริ่มมากขึ้นและมีเชื้อที่ดื้อยามากขึ้น ประมาณว่าปีหนึ่งจะมีคนติดเชื้อใหม่ประมาณ 8 ล้านคนและเสียชีวิตประมาณ 3 ล้านคนต่อปี
การแพร่ของเชื้อโรค Transmission
เชื้อวัณโรคจะแพร่โดยเชื้อจนอยู่ในเสมหะที่มีขนาด 1-5 ไมครอนซึ่งจะไปถึงถุงลมในปอดและทำให้เกิดการติดเชื้อ เสมหะนี้จะเกิดจากการไอ จาม พูดหรือร้องเพลง เชื้อโรคอาจจะอยู่ที่กล่องเสียงหรือในปอด หากเสมหะมีขนาดใหญ่กว่านี้จะถูกติดที่เยื่อบุโพรงจมูกวึ่งไม่ทำให้เกิดโรค
สภาวะที่เอื้อต่อการติดเชื้อได้แก่
- จำนวนเชื้อวัณโรคที่อยู่ในอากาศ
- ความเข้มข้นของเชื้อโรคซึ่งขึ้นกับปริมาณเชื้อและการถ่ายเทของอากาศ
- ระยะเวลาที่คนอยู่ในห้องที่มีเชื้อโรค
- ภูมิคุ้มกันของคนที่สัมผัสโรค
วิธีการที่จะทำให้เชื้อในอากาศมีน้อยลงหากเชื้อที่อยู่ในอากาศมีปริมาณมากคนที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมก็มีโอกาศที่จะติดเชื้อโรคสำหรับท่านที่พักอาศัยกับผู้ที่เป็นวัณโรคปอด ก็สามารถนำวิธีนี้ไปใช้เพื่อลดเชื้อในอากาศซึ่งจะทำให้ลดการติดเชื้อได้ วิธีที่จะลดปริมาณเชื้อได้แก่เพิ่มการถ่ายเทของอากาศโดยให้มีปริมาตรของอากาศที่ไหลเวียนประมาณ 6 เท่าของห้องต่อชั่วโมงซึ่งจะทำให้เชื้อในห้องเจือจางลงให้แสงแดดส่องเข้ามาในห้องซึ่งมี ultraviolet สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ให้ผู้ป่วยรับยารักษาวัณโรคให้ผู้ป่วยผูกหน้ากากซึ่งจะต้องคลุมทั้งปากและจมูก
เชื้อที่เป็นสาเหตุ
เชื้อวัณโรคมีอยู่หลายสายพันธุ์ได้แก่
- M. tuberculosis complex
- M. tuberculosis
- M. bovis
- M africnum
- M. microti
- M. canetti
อาการและอาการแสดงของโรควัณโรค
คนที่ติดเชื้อวัณโรคมีอาการได้หลายรูปแบบ บางคนอาจจะไม่มีอาการบางคนอาจจะมีอาการมากทั้งนี้ขึ้นกับปัจจัยดังต่อไปนี้ปัจจัยที่ตัวผู้ป่วย
- ได้แก่อายุสำหรับเด็กและคนสูงอายุจะมีความรุนแรงมากกว่าคนหนุ่มสาว
- สภาวะของภูมิคุ้มกันของผู้ป่วย เช่นคนที่เป็นโรคเอดส์ คนที่รับประทานยากดภูมิ ขาดอาหาร
- โรคที่พบร่วม เช่นโรคถุงลมโป่งพอง เบาหวาน
- การฉีดวัคซีนป้องกันวัณโรค
ปัจจัยด้านตัวเชื้อโรค
- ความรุนแรงของตัวเชื้อ
- ตำแหน่งที่เกิดโรค
- ปฎิกิริยาระหว่างผู้ป่วยและตัวเชื้อโรค มีปฎิกิริยามากก็จะเกิดอาการมาก เช่นไข้หรือไอเป็นต้น
- ตำแหน่งที่เกิดโรค
- ความรุนแรงของโรค